วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เอ็นโอเคลงบล็อก
การจัดการความรู้ของบริษัท NOK Precision Component (ประเทศไทย) จํากัด
จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสภาพการจัดการความรู้ของบริษัทNOK ซึ่งได้รับเกียรติและความร่วมมือจากผู้บริหารและพนักงานของบริษัท NOK Precision Component (ประเทศไทย) จํากัด (คุณศราวุธและคุณปุ๊ก)เป็นอย่างดี
บริษัท NOK Precision Component (ประเทศไทย) จํากัด เป็นบริษัทในเครือบริษัท NOK Corporation ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจําหน่ายชิ้นส่วนที่เป็นยางของยานพาหนะ (Automobile Rubber Component) ต่อมาบริษัท NOK Corporation ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์โดยบริษัท NOK Precision Component (ประเทศไทย) จํากัด
บริษัทดําเนินธุรกิจผลิตและจัดจําหน่ายชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2544 ด้วยทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 360 ล้านบาท บริษัทฯ เริ่มดําเนินการผลิตในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2544 โดยมีบริษัท NOK Corporation เป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียว ปัจจุบันบริษัทฯ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 189 หมู่ 16 นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดอยุธยา มีพนักงานทั้งสิ้น 1,770 คน (ข้อมูลเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 )
ชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ อุปกรณ์ที่พักชุดหัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ (Ramp) อุปกรณ์กันกระแทกของชุดหัวอ่านภายในฮาร์ดดิสก์ (Crash stop) อุปกรณ์ป้องกันหัวอ่านไม่ให้เคลื่อนที่เมื่อฮาร์ดดิสก์หยุดทํางาน (Latch) และอุปกรณ์ที่เป็นชุดฝาปิดของฮาร์ดดิสก์เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากภายนอก (Top Cover) ทางบริษัทฯ ผ่านการพิจาณณาและได้รับ BOI ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม ISO 14000 และ ISO 9000
ด้วย
จากการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย พบว่า ปัจจัยภายนอกส่วนใหญ่ยังสนับสนุนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้เติบโตขึ้น แต่การแข่งขันใน อุตสาหกรรมประเภทนี้อยู่ในระดับค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งอุตสาหกรรมนี้ยังต้องเผชิญกับความ เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าของเทคโนโลยี จาก ลักษณะของอุตสาหกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทําให้บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ต้องให้ความสําคัญกับ การปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าตลอด จึงต้องสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของบริษัท NOK Precision Component (ประเทศไทย) จํากัด ทาง บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความสําคัญของการจัดการความรู้และได้มีการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบ สารสนเทศที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพขึ้นในบริษัทฯ รวมทั้งทำการ SWOT และใช้ CHANGE MANAGEMENT เพื่อให้ได้มาซึ่งต้นทุนการผลิตที่ต่ำ แต่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งบริษัท NOK ใช้การจัดการความรู้ที่สมบูรณ์เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับตัวบริษัทฯ อันจะส่งผลให้บริษัทฯ สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืนได้ โดยผู้บริหารพยายามปลูกฝังให้พนักงานมีความฝันและพยายามทำสภาพแวดล้อมให้เกื้อกูลต่อการเรียนรู้ ทั้งนี้ การทำ KM นั้นจะเกิดขึ้นได้ต้องมีปัจจัยจากวัฒนธรรมองค์กร(ความเชื่อมั่น+ความศรัทธาของคน) โดย NOK มีวัฒนธรรมองค์กร 10 ข้อเป็นปัจจัยในการทำ KM
ในปัจจุบันกระบวนการจัดการความรู้ของบริษัทNOK มีความสมบูรณ์เนื่องมาจากผู้บริหารมีความรู้และความเข้าใจในเรื่อง การจัดการความรู้ อีกทั้งบทบาทในการจัดการความรู้ส่วนใหญ่นั้นอยู่ที่พนักงานทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับ บริหาร หรือระดับปฏิบัติ ทุกเพศ ทุกวัย และทุกคน ซึ่งผู้บริหารได้มีการเสนอกิจกรรมทางด้านการจัดการความรู้ของ บริษัทฯ ในโอกาสต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งมีแผนดําเนินการ 3 ระยะ คือ แผนระยะสั้น แผนระยะกลาง และแผนระยะยาว ดังนี้
แผนระยะสั้นโดยการเน้นที่การสร้างความเข้าใจที่ ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการความรู้ การใช้ประโยชน์จากสื่อในการจัดการความรู้ การเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ทางการบริหารเข้ากับการจัดการความรู้เพื่อลดข้อผิดพลาดจากการทํางานที่มีสาเหตุ มาจากการขาดข้อมูลด้านกระบวนการ และการดําเนินการเพี่อจัดการความรู้โดยเฉพาะความรู้แฝง(TK) ในส่วนของแผนระยะกลางนั้นเน้นที่การดําเนินการตรวจสอบความรู้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เชิงกลยุทธ์ (Knowledge Audit) การประสานงานกับองค์การภายนอกเพื่อสร้างเครือข่ายความรู้ที่เป็นทางการ การทบทวนความรู้ของบริษัทฯ และการทบทวนกระบวนการจัดการความรู้และการปรับกิจกรรมต่างๆให้ส่งเสริมการจัดการความรู้ สําหรับในแผนระยะยาวนั้นมีการเสนอ แนวทางในการนําระบบความสามารถเชิงสมรรถนะ (Competency) และการปรับแนวกลยุทธ์ทางการจัดการความรู้ให้สอดคล้องกับพนักงานแต่ละกลุ่มโดยอิงเกณฑ์ด้านความรู้
จากแผนการที่ทางบริษัท NOK ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาทำให้การจัดการความรู้ของ บริษัทNOK มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสําคัญในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่ ยั่งยืนแก่บริษํทฯ ในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนถึงปัจจุบันและในอนาคตต่อไป จึงทำให้การศึกษาดูงานในครั้งนี้มีประโยชน์และสามารถนำไปเป็นแนวทางในการศึกษา รวมทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรต่าง ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรได้